รีวิวการขอวีซ่าเยอรมัน วีซ่าเชงเกนเพื่อการท่องเที่ยว ด้วยตัวเอง ปี 2025 เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่กำลังจะเดินทางไปประเทศเยอรมันและประเทศอื่นๆในแถบยุโรป สำหรับในปีนี้เราได้วีซ่าเชงเก้น Multiple มา 2 ปีมาอีกครั้ง
ก่อนอื่นต้องบอกว่าครั้งนี้ไม่ใช่การขอวีซ่าเชงเกนเยอรมันครั้งแรกของเรานะคะ ก่อนหน้านี้เคยได้วีซ่าเยอรมันมารอบนึงแล้ว ตอนนั้นก็ได้วีซ่าเชงเก้นแบบ Multiple มา 2 ปีเช่นกัน แต่ได้ใช้เดินทางแค่ครั้งเดียว ครั้งนี้ทริปใหม่เลยต้องขอใหม่ค่ะ
รีวิวล่าสุดอันนี้ อาจจะไม่ได้ละเอียดเท่าเดิม เพราะเอกสารส่วนใหญ่ก็ยังคงเหมือนเดิม แต่เราอยากมาแชร์และอัพเดทข้อมูลที่ไปยื่นล่าสุด ใครอยากอ่านรีวิวแบบละเอียด สามารถกดอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ ⬇️
รีวิวขอวีซ่าเชงเก้นท่องเที่ยว ของเยอรมันผ่าน VFS!
เอกสารที่เตรียมเพื่อขอวีซ่าเยอรมันปี 2568
เอกสารขอวีซ่าเชงเก้นเยอรมันเพื่อการท่องเที่ยวที่เราเตรียม มีดังนี้
1. หนังสือเดินทางฉบับจริงพร้อมสำเนา 2 ชุด
- มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า
- เป็นหนังสือเดินทางที่ออกมานานไม่เกิน 10 ปี
- ยังมีอายุใช้ได้อย่างน้อยอีก 6 เดือน นับจากวันเดินทางออกนอกประเทศสมาชิกเชงเกน
สำเนา passport เล่มปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ขอไป 2 แผ่นนะคะ แผ่นแรกจะใช้เพื่อประกอบการพิจารณาวีซ่า ส่วนอีกแผ่นเจ้าหน้าที่คืนให้ทีหลัง ใช้เพื่อรับ passport คืน
2. หนังสือเดินทางเล่มเก่า
หนังสือเดินทางเล่มเก่า พร้อมสำเนาหนังสือเดินเล่มเก่าและวีซ่าที่เคยได้รับ 1 ชุด
เราแนบหนังสือเดินทางเล่มเก่าไป 2 เล่ม แต่เจ้าหน้าที่คืนมา 1 เล่ม เก็บไปแค่เล่มเดียวค่ะ นอกจากนี้เราถ่ายสำเนาวีซ่าและตราประทับเข้าออกทุกประเทศที่เคยไปมาทุกหน้าด้วย แต่รอบนี้เจ้าหน้าที่เลือกเก็บสำเนาของวีซ่าเชงเก้น ส่วนเอกสารสำเนาตราสแตมป์เข้าประเทศอื่นๆเจ้าหน้าที่คืนมาให้หมด
3. หลักฐานการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล (ถ้ามี)
หลักฐานการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ให้แสดงเอกสารฉบับจริงและสำเนา 1 ชุด ถ้าไม่เคยเปลี่ยนก็ไม่ต้องใช้นะคะ
4. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าเชงเกนที่กรอกข้อความครบถ้วน 1 ฉบับ
กรอกแบบฟอร์มผ่านระบบ e-application VIDEX ที่ https://videx.diplo.de
สำหรับใครที่ยังงงๆกับการกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าเชงเก้น สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่ค่ะ ⬇️
เมื่อกรอกเสร็จแล้ว ให้ Print ให้ลงวันที่และลงนามและนำมาใช้เป็นเอกสารในการยื่นขอวีซ่า 1 ฉบับ อย่าลืมเซ็นลายเซ็นต์ในเอกสารทุกอย่างให้เหมือนกับลายเซ็นต์ที่ปรากฎในหนังสือเดินทาง
5. ฟอร์มข้อมูลต่างๆ
ฟอร์มข้อมูลต่างๆอีก ทั้งหมด 3 แบบฟอร์ม ให้ Print และลงชื่อ ได้แก่
- ลงนามรับทราบข้อกฎหมายการพำนักในเยอรมนีมาตรา 54 วรรค 2 ข้อ 8 และมาตรา 53
- ข้อมูลตามมาตรา 13 และ 14 ระเบียบข้อบังคับ (สหภาพยุโรป) 2016/679 (ระเบียบข้อบังคับพื้นฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล)
- ใบยืนยันรับทราบระเบียบข้อบังคับพื้นฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล
6. รูปถ่ายแบบไบโอเมตริก
- รูปถ่ายแบบไบโอเมตริก จำนวน 2 ใบ รูปถ่ายสี โดยฉากหลังเป็นสีขาว
- รูปถ่ายมีอายุไม่เกิน 6 เดือน
- ขนาด 3.5 ซม.x 4.5 ซม.
- ตัวอย่างรูปถ่ายแบบไบโอเมตริก
ที่ศูนย์ VFS GLOBAL มีบริการถ่ายรูปด้วยค่ะ แต่เราถ่ายจากร้านข้างนอก ตอนไปถ่ายรูปที่ร้านสามารถแจ้งร้านว่ามาถ่ายรูปวีซ่าเยอรมันได้เลย เมื่อยื่นเอกสารเราได้แนบรูปที่เขียนชื่อและเลขที่ Passport ไว้ด้านหลังรูปด้วย
7. หลักฐานการจองเที่ยวบิน (ขาไป-กลับ)
ส่วนตัวเราจองตั๋วเครื่องบินจากเว็บสายการบินล่วงหน้าก่อนไปยื่นประมาณ 1 วัน แต่เลือกจองแบบ hold เวลาไว้ได้ โดยเลือกชำระเงินที่เคาเตอร์ธนาคาร เมื่อจองเสร็จ ระบบจะส่งใบยืนยันการจอง เราก็พริ้นใบจองออกมาและนำไปยื่นขอวีซ่าได้เลย ถ้าเราไม่ได้ชำระเงินในเวลาที่กำหนด ใบจองจะถูกยกเลิกอัตโนมัติ เราค่อยจองใหม่และจ่ายเงินหลังได้วีซ่าเชงเก้นแล้วค่ะ เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินระบุชื่อจริงนามสกุลเราเป็นภาษาอังกฤษ
สำหรับใครที่ไม่อยากจองเองสามารถแจ้งทางบริษัททัวร์หรือ Agent ให้ช่วยออกเอกสารใบจองเที่ยวบินสำหรับทำวีซ่าให้ก่อนได้ค่ะ บางบริษัทไม่มีค่าใช้จ่าย เราเคยให้บริษัททัวร์จองให้ก่อนในราคา 200 บาท (อาจจะถูกกว่านี้หรือแพงกว่านี้ได้อีก ลองสอบถามหลายๆที่ดูนะคะ) สำหรับใครที่ชำนาญแล้วสามารถจองสายการบินโดยตรง ไม่แนะนำให้ซื้อตั๋วเครื่องบินจนกว่าจะได้รับวีซ่านะคะ สถานทูตเองก็ขึ้นคำเตือนไว้ว่าอย่าจ่ายเงินซื้อตั๋วถ้าหากยังไม่ได้วีซ่า
อีกอย่างที่เราอยากแนะนำ คือ ควรขอวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยวโดยบวกวันเพิ่มไปสัก 2-3 วันเผื่อกรณีฉุกเฉินต่างๆ เช่น สายการบินดีเลย์หรือเที่ยวบินยกเลิก เพราะส่วนใหญ่ถ้ายังไม่เคยขอวีซ่าเช้งเก้นมาก่อน ก็มักจะได้วีซ่าเช้งเก้นตามจำนวนวันที่ขอแบบเป๊ะๆ
8. แผนการเดินทางโดยละเอียด (Itinerary)
แผนการเดินทางต่างๆ เราทำใน Excel คล้ายๆตารางทัวร์เลย ระบุประเทศ, วัน, ชื่อโรงแรมที่พัก ที่อยู่ เบอร์โทร, สถานที่ท่องเที่ยวคร่าวๆ, วิธีเดินทาง รวมถึงประมาณการค่าใช้จ่ายแต่ละวันไว้ด้วย
ในกรณีที่เดินทางไปประเทศอื่นด้วย ก็จะใส่รายละเอียดของยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทางข้ามประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถบัส หรือตั๋วเครื่องบิน
9. หลักฐานยืนยันการจองโรงแรมหรือที่พัก
สำหรับเอกสารการจองโรงแรมที่พัก ให้จองทุกวัน ตลอดระยะเวลาการเดินทาง โดยเลือกจองโรงแรมให้สอดคล้องกับแผนการเดินทางและเมืองที่เราไปเที่ยวนะคะ
หลักๆ เราจองโรงแรมในยุโรปผ่าน Booking.com แต่สามารถจองผ่าน Agoda ก็ได้เช่นกัน แนะนำให้เลือกแบบ Free cancellation ซึ่งสามารถยกเลิกได้ไม่มีค่าธรรมเนียม เพราะถ้ามีการเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทางจะได้ไม่เสียเงินไปฟรีๆ หรือกรณีที่เรายังไม่แน่ใจ หรือยังคงเลือกที่พักอยู่
ในเอกสารต้องระบุชื่อทุกคนที่เดินทางให้ตรงกับหนังสือเดินทาง สำหรับใครที่จองผ่าน Booking.com เมื่อจองเสร็จให้เข้าไป manage booking ไปที่ edit guest/room detail เพิ่มชื่อสมาชิกที่เดินทางได้ง่ายๆ
ค้นหาที่พักในเยอรมัน ⬇️
10. หลักฐานการทำงาน
เรายื่นหนังสือรับรองการทำงาน ระบุตำแหน่งงานปัจจุบันและเงินเดือน ฉบับภาษาอังกฤษ รอบนี้ทางบริษัทไม่ได้ระบุระยะเวลาที่ลางานไว้ในเอกสาร เราเลยเขียนเอกสารแนบเพิ่มเติม หนังสือรับรองการทำงานต้องออกจากองค์กรหรือบริษัทฯโดยมีหัวจดหมาย ลายเซ็นนายจ้างและตราประทับของบริษัท ที่อยู่และเบอร์ติดต่อของบริษัทอย่างชัดเจน
11. หลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ (Travel Insurance)
หลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางตลอดระยะเวลาที่ขอพำนักวงเงินความคุ้มครอง 30,000 ยูโร หรือประมาณ 1,500,000 บาท ต้องครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลต่างๆในระหว่างที่พำนักอยู่ต่างประเทศ และต้องรวมบริการนำตัวกลับประเทศในกรณีเจ็บป่วยด้วย
ก่อนซื้อประกันคลิกตรวจสอบรายชื่อบริษัทปรกันในประเทศไทยที่เป็นที่ยอมรับของสถานทูตก่อนนะคะ หรือจะทำประกันดังกล่าวกับบริษัทประกันในประเทศเยอรมนีก็ได้เช่นกัน
ราคาประกันภัยค่อนข้างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความต้องการของเราเลย ประกันการเดินทางมีทั้งแบบรายเที่ยวและรายปี เลือกให้ครอบคลุมพื้นที่ในกลุ่มประเทศแชงเก้น มีหลายเจ้าที่ยืนดีคืนเงินหากวีซ่าเราไม่ผ่านและบางเจ้าสามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
12. เอกสารแสดงฐานะทางการเงิน
สำหรับเอกสารทางการเงินต้องไปขอกับทางธนาคาร เอกสารที่เราแนบเพื่อยื่นขอวีซ่า มีดังนี้
- สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝาก bank book
- ใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร (Bank Statement) ย้อนหลัง 3 เดือน ฉบับจริงที่มีตราประทับและลายเซ็นของธนาคาร
- หนังสือรับรองทางการเงิน (BANK GUARANTEE) ฉบับจริงเป็นภาษาอังกฤษ เป็นเอกสารที่สรุปยอดเงินปัจจุบัน ของเราธนาคารระบุสกุลเงินไทยและยูโรให้ค่ะ
13. หลักฐานที่แสดงถึงภาระผูกพันหรือความสัมพันธ์ในประเทศไทย (ถ้ามี)
เช่น หลักฐานการถือครองอสังหาริมทรัพย์ (มีชื่อเป็นเจ้าของ) โฉนด สัญญาเช่า สมุดบัญชีเงินฝาก ทะเบียนสมรส สูติบัตรของบุตร
14. จดหมายแนะนำตัวต่อสถานทูตเพื่อขอวีซ่า
เอกสารที่เราเขียนเพิ่มขึ้นมาเอง คือ จดหมายแนะนำตัวต่อสถานทูตเพื่อชี้แจงจุดประสงค์ที่เราจะเดินทาง
ย่อหน้าแรกเราระบุวันเดินทาง เที่ยวบิน ระยะเวลาที่เราจะลางานและแจ้งว่าทางบริษัทได้รับทราบและอนุมัติเรียบร้อย (เขียนเพิ่มเองเนื่องจากในหนังสือรับรองการทำงานไม่ได้ระบุวันเวลาที่จะลางานไว้)
ย่อหน้าต่อมาเราแจ้งว่าต้องการวีซ่าแบบ Multiple เพราะมีแพลนจะเดินทางมากกว่าหนึ่งครั้งโดยใช้วีซ่าเดียวกัน ไม่ต้องขอใหม่
ส่วนย่อหน้าสุดท้ายเราเขียนว่าเราจะกลับมาไทยแน่ๆ เพื่อให้ทางสถานทูตมั่นใจ
สำหรับคนที่ทำงานฟรีแลนซ์ จดหมายแนะนำตัวสามารถใช้อธิบายเกียวกับหน้าทีการงาน แหล่งที่มาของเงิน และลักษณะการทำงาน เป็นต้น
เมื่อเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็จัดเรียงเอกสารในการขอวีซ่าเชงเก้นเยอรมันตามที่สถานทูตกำหนด ดังนี้
- สำเนาหนังสือเดินทาง
- แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า
- ใบจองเที่ยวบิน
- หลักฐานอื่น ๆ เช่น หนังสือรับรองการทำงาน, หลักฐานทางการเงิน, สูติบัตร, โฉนดที่ดิน ฯลฯ
- หลักฐานการประกัน สุขภาพและอุบัติเหตุ
การจองคิวเพื่อยื่นวีซ่าท่องเที่ยวเยอรมัน
ระหว่างเตรียมเอกสารก็ทำการนัดหมายผ่านระบบออนไลน์เพื่อยื่นคำร้องขอวีซ่าท่องเที่ยว ที่นี่
คลิกเพื่อดูขั้นตอนและวิธีจองคิวออนไลน์เพื่อยื่นวีซ่าเยอรมันได้เลยค่ะ
ช่วงที่เรายื่นคือคนไปยื่นเยอะมากๆ กว่าจะได้คิวรอไปเป็นเดือน เราแนะนำให้เข้าไปเช็ควันเรื่อยๆนะคะ ถ้าโชคดีจะเจอคิวหลุด เมื่อจองคิวสำเร็จจะมีอีเมลล์คอนเฟิร์มวันและเวลานัดหมาย ให้พริ้นออกมาและนำไปในวันนัดด้วย
การยื่นเอกสารเพื่อขอวีซ่าเยอรมันที่ VFS
เมื่อถึงกำหนดตามคิวยื่นเอกสารตามที่ได้เลือกไว้ ให้เดินทางไปยื่นเอกสารได้ที่ VFS GLOBAL อาคารจามจุรีสแควร์ ชั้น 4 การเดินทางก็ง่ายมาก สามารถนั่ง MRT ไปลงที่สถานีสามย่าน (Samyan Station) ออกตรงทางออก 2 จะมีทางเชื่อมเข้าอาคารจามจุรีสแควร์ ตรงฝั่งพลาซ่า ขึ้นบันไดเลื่อนหรือลิฟต์ไปยังชั้น 4 ได้เลย
แนะนำให้มาก่อนเวลานัดหมาย เพราะเจ้าหน้าที่จะให้เข้าไปยังศูนย์ VFS GLOBAL ก่อนเวลานัดหมายเพื่อรับบัตรคิวก่อนเข้าไปยื่นคำร้องขอวีซ่า ในช่วงนี้เจ้าหน้าที่ให้เข้าไปก่อนเวลานัด 5 นาที
หลังจากได้รับบัตรคิวแล้วก็นั่งรอเรียกหน้าเคาร์เตอร์ VFS ของสถานทูตเยอรมันได้เลย ถ้าเอกสารครบแล้ว ไม่ค่อยมีอะไรมากค่ะ ของเราเจ้าหน้าที่เช็คเอกสารอย่างเดียว โดยไม่ถามอะไรเลย ระหว่างเช็คเอกสารก็ให้เราเขียนหน้าซองไปรษณีย์สำหรับส่ง passport กลับ
เมื่อยื่นเอกสารแล้วมานั่งรอเรียกจ่ายเงินอีกรอบ รอบนี้เจ้าหน้าที่จะยื่นใบสมัคร SMS มาให้กรอก สำหรับใครที่ไม่ต้องการรับ SMS เพื่อเช็คสถานะสามารถแจ้งว่าไม่สมัครได้นะคะ สามารถเช็คในเว็บไซต์ได้เอง ทาง VFS จะส่งอีเมลล์แจ้งสถานะด้วยอยู่แล้ว
หลังจากนั้นก็กลับมานั่งรอเรียกอีกรอบ เพื่อสแกนลายนิ้วมือ
ช่วงนี้คนไปยื่นเอกสารค่อนข้างเยอะแต่เราใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 30 นาทีก็ยื่นเอกสารเสร็จเรียบร้อยค่ะ
ค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าเยอรมัน
ค่าใช้จ่ายของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันตาม Service ต่างๆนะคะ ค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่เราจ่ายไปทั้งหมด ดังนี้
- ค่าวีซ่า 3,200 บาท
- ค่าบริการยื่นคำร้องขอวีซ่าผ่าน VFS GLOBAL 679 บาท
- ค่า SMS 58 บาท
- ค่า EMS 201 บาท
ค่าธรรมเนียมสามารถชำระเป็นเงินสด หรือบัตรเครดิตได้ที่ศูนย์ยื่นฯในวันที่นัดหมาย
ระยะเวลาดำเนินการวีซ่า
ระยะเวลาดำเนินการสำหรับวีซ่าท่องเที่ยวของเยอรมันโดยปกติจะได้รับการตรวจสอบภายใน 15 วันทำการ ในบางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านั้น สำหรับเราสถานทูตเยอรมันใช้เวลาเร็วมาก เอกสารถึงมือเราใน 5 วันทำการ ส่วนไทม์ไลน์ก็ตามนี้
วันจันทร์ 9.00 น.: ยื่นขอวีซ่าที่ศูนย์ VFS กรุงเทพ
วันอังคาร 9.06 น. : มี SMS แจ้งว่า " Your application has been forwarded to the German Embassy Bangkok."
วันอังคาร 9.06 น. : มี SMS แจ้งว่า " Your visa application is under process at German Embassy Bangkok."
วันพฤหัส 11.40 น. : The application is now ready for pick up at VFS German VAC from 8am-5.15pm, M-F or wait for courier (if paid).
วันศุกร์: เราได้รับ Passport พร้อมวีซ่า ทางไปรณีย์ EMS
สรุป คือ รอบนี้ได้วีซ่า Multiple มา 2 ปีตามที่ต้องการ สามารถใช้เดินทางได้หลายครั้งนานถึง 90 วันในระยะเวลา 180 วัน
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ